Posts

Showing posts from January, 2019

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือ สมเด็จพระภัทรมหาราช

Image
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 9 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยผู้เสวยราชย์ยาวนานที่สุดคือ 70 ปีพระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญาว่า  "สมเด็จพระภัทรมหาราช"  มีความหมายว่า  "พระมหากษัตริย์ผู้ประเสริฐยิ่ง"  ต่อมามีการถวายพระราชสมัญญาใหม่ว่า " พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช" เมื่อ พ.ศ. 2510 และ "พระภูมิพลมหาราช" อนุโลมธรรมเนียมเช่นเดียวกับ "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" ที่ทรงได้รับพระราชสมัญญาว่า "พระปิยมหาราช" แต่ทั้งนี้ประชาชนทั่วไปนิยมเรียกพระองค์ว่า  " ในหลวง "  โดยย่อมาจาก "ใน (พระบรมมหาราชวัง) หลวง" บ้างก็ว่าเพี้ยนมาจากคำว่า  "นายหลวง"  ซึ่งแปลว่าเจ้านายผู้เป็นใหญ่ พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรก และพระองค์เดียวของโลก ที่ได้รับการถวายการรับจดทะเบียนสิทธิบัตร และอนุสิทธิบัตร ทรงเป็นแบบอย่างที่ประชาชนสมควรเจริญรอยตามเบื้องพระยุคลบาท ในการประดิษฐ์คิดค้น สร้างสรรค์ และพัฒนาเทคโนโลยีของไทยขึ้นมาใช้เอง รวมทั้งกา...

พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ สมเด็จพระปิยมหาราช

Image
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระมหากษัตริย์สยาม รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี พระองค์ได้รับสมัญญาว่า "ปิยมหาราช" แปลว่า มหาราชผู้ทรงเป็นที่รัก และว่า "พระพุทธเจ้าหลวง" พระองค์ทรงมีประปรีชาสามารถยิ่งในการรักษาประเทศไม่ให้ตกเป็นเมืองขึ้นของชาวตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม อีกทั้งยังเป็นผู้วางรากฐานเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยะประเทศ พระราชกรณียกิจที่สำคัญเช่น ทรงโปรดให้มีการเลิกทาส,เลิกไพร่,จัดตั้ง ไปรษณีย์ ไทย ,โทรศัพท์และโทรเลข ,การไฟฟ้าและการประปา,จัดสร้างทาง รถไฟ ,ตั้งโรงเรียนและโรงเรียนกฎหมาย,ทรงริเริ่มสร้างโรงพยาบาลศิริราช,แต่งตั้งกระทรวงต่างๆในการบริหารประเทศ ทั้งนี้พระองค์ยังทรงห่วงใยราษฎรเป็นอย่างมาก เห็นได้จากที่พระองค์ทรงปลอมตัวเป็นสามัญชนเพื่อเสร็จเยี่ยมประชาชนอยู่บ่อยๆ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นับว่าเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์หนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากกับประเทศไทย จากการวางรากฐานและเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆให้ประเทศไทยเจริญรุ่งเรื่องมาจนถึงทุกวันนี้
Image
พระบาทสมเด็จพระปรโมรุราชามหาจักรีบรมนารถ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก   พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยพระองค์แรกในราชวงศ์จักรี และเป็นผู้ทรงสร้างกรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ ฯลฯ เป็นราชธานีของไทย ทรงกระทำศึกสงครามกับพม่าหลายครั้ง ทรงขยายอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง ทรงสร้างปราสาทราชวัง ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกตมาจากเวียงจันทร์ สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และวัดอื่นๆ ทรงรื้อฟื้นสังคายนาพระไตรปิฎก รวบรวมกฎหมายตราสามดวง และโปรดให้แต่งบทละครต่างๆ ขึ้นแทนของเก่าที่ถูกพม่าเผาทำลาย

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

Image
สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี หรือ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระบรมราชาที่ 4 มีพระนามเดิมว่า สิน พระองค์เป็นผู้กอบกู้เอกราชจากพม่าภายหลังการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง ทรงใช้เวลา ๗ เดือนในการขับไล่ทหารพม่าออกจากราชอาณาจักรจนหมดสิ้น และทรงทำสงครามเพื่อรวบรวมแผ่นดินซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่น เช่นเดียวกับขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง จากนั้นทรงสร้างกรุงธนบุรีเป็นราชธานีใหม่ของไทย และทรงทำสงครามเพื่อรวบรวมแผ่นดินซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของขุนศึกก๊กต่าง ๆ ให้เป็นปึกแผ่น เช่นเดียวกับขยายพระราชอาณาเขตออกไปอย่างกว้างขวาง จากนั้นทรงสร้างกรุงธนบุรีเป็นราชธานีใหม่ของไทย

สมเด็จพระนารายณ์มหาราช

Image
สมเด็จพระนารายณ์มหาราช หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 หรือ สมเด็จพระรามาธิบดีศรีสรรเพชญ เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 27 ในสมัยกรุงศรีอยุธยา พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ทำให้ประเทศชาติเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก ทรงติดต่อเจริญพระราชไมตรีกับนานาประเทศ ทรงติดต่อการค้ากับชาวต่างชาติ และเมื่อมีเหตุการณ์ร้ายแรงขึ้น ก็ทรงแก้ไขด้วยความเฉลียวฉลาด ในยุคของพระองค์ถือเป็นยุคทองแห่งวรรณคดีไทย เนื่องจากพระองค์ทรงอุปถัมภ์และส่งเสริมการกวี จนเป็นเหตุให้เกิดมีกวีที่มีชื่อเสียงหลายคน มีวรรณคดีเกิดขึ้นหลายเล่ม

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช

Image
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือ สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 2 มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" พระองค์ทรงเป็นผู้กอบกู้เอกราชให้กับไทยหลังจากเสียกรุงครั้งที่ 1 และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือ จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทใหญ่บางรัฐ พระองค์ทรงเป็นนักรบชนะศึกหลายครั้งหลายครา โดยเหตุการณ์สำคัญที่พระองค์ทรงใช้ไหวพริบปฎิภาณ และความเก่งกาจในด้านการรบ คือวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2135 พระมหาอุปราชาของพม่าได้ยกทัพมาตีไทย พระองค์ทรงชนช้างกระทำยุทธหัตถี และทรงฟันพระมหาอุปราชาสิ้นพระชนม์บนคอช้าง ตั้งแต่นั้นมาพม่าก็เกรงกลัว เลิกยกทัพมารุกรานไทยอีก

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

Image
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช หรือ พญาร่วง   เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 3 ในราชวงศ์พระร่วงแห่งราชอาณาจักรสุโขทัย เสวยราชย์ประมาณ พ.ศ. 1822 ถึงประมาณ พ.ศ. 1841 พระองค์ทรงสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับอาณาจักรสุโขทัยเป็นอย่างมาก เช่น ริเริ่มประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นใช้เอง เมื่อปี พ.ศ.๑๘๒๖ , ขยายอาณาจักรให้กว้างไกล, เปิดการค้าเสรีและปกครองบ้านเมืองอย่างยุติธรรมเสมือน "พ่อปกครองลูก" ,ทรงรับเอาพระพุทธศาสนา นิกายเถรวาท ลัทธิลังกาวงศ์เข้ามา จนเป็นศาสนาประจำชาติในปัจจุบัน เนื่องด้วยการดำเนินพระราชกรณียกิจที่สำคัญทำให้พระองค์ทรงได้รับการยกย่องเป็นกษัตริย์ "มหาราช" พระองค์แรกของกษัตริย์ไทย อ่านต่อที่  https://www.sanook.com/news/2090974/